แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 1 – 2 เรอัล มาดริด

รายการ ฟุตบอลการกุศล เรด ฮาร์ท ยูไนเต็ด
เวลา 20.30 น. วันอาทิตย์ที่ 2 มิถุนายน 2556
ผู้ทำประตู แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ฟาน นิสเตลรอย น.68
ผู้ทำประตู เรอัล มาดริด มอริเอนเตส น.39, เด ลา เรด น.85
ทีมชุดตำนานของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด พ่ายแพ้ต่อเรอัล มาดริด ไป 1 – 2 ในเกมการกุศลเรด ฮาร์ท ยูไนเต็ด ซึ่งผ่านไปโดยประสบความสำเร็จอย่างล้นหลาม มีผู้ชมเข้ามาในสนามกันกว่า 60,000 คนเพื่อชมสุดยอดเกมดังกล่าวที่สนามโอลด์ แทรฟฟอร์ด ซึ่งมีคอนเสิร์ตจาก JLS มาสร้างสีสันก่อนเริ่มเกม
รุด ฟาน นิสเตลรอย ซึ่งวันนี้เล่นให้กับทั้ง 2 ทีมปลุกเสียงเชียร์ในสนามด้วยการยิงตีเสมอลูกขึ้นนำของ เฟร์นานโด มอริเอนเตส หลังจากที่ ดไวท์ ยอร์ค ยิงชนคานไป รูเบน เด ลา เรด ก็มาซัดลูกที่ 2 ให้ทีมยักษ์ใหญ่จากสเปนเป็นฝ่ายคว้าชัยชนะไป โดยทำให้สกอร์รวมเพิ่มขึ้นเป็น 5 – 3 ด้วย
ซีเนดีน ซีดาน ได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่น แต่ก็เป็น พอล สโคลส์ ที่โชว์ทักษะจนได้รับเสียงปรบมือมากกว่าจากผู้ชมในสนาม มิดฟิลด์รายนี้จ่ายบอลแบบสุดเฉียบจนเกือบทำให้ทีมได้ประตูขึ้นนำ แต่ว่า ดไวท์ ยอร์ค ก็ไม่สามารถฉกฉวยโอกาสนี้เอาไว้ได้ ก่อนที่ซีดานจะวอลเล่ย์ลูกจ่ายเข้ากลางของ มิเชล ซัลกาโด้ ให้ เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์ ต้องออกแรงปัดข้ามคาน
ช่วงเวลาของ เฮนนิ่ง เบิร์ก ต้องจบลงตั้งแต่เกมผ่านไปได้แค่ 9 นาที หลังจากที่เขาถูกเปลี่ยนตัวออกไปเพราะอาการบาดเจ็บ โดยเป็น ลี มาร์ติน ที่ลงมาเล่นแทนเขาในตำแหน่งแบ็คขวา เรอัล มาดริด ยังคงบุกอย่างต่อเนื่อง สร้างความหนักใจให้กับ ฟาน เดอร์ ซาร์ แต่ลูกโหม่งของ อิบัน เอลเกร่า ก็หลุดกรอบออกไปแบบไม่ได้ลุ้น ขณะที่ลูกยิงของ หลุยส์ ฟิโก้ ก็ถูกเซฟเอาไว้ได้สบายโดยผู้รักษาประตูชาวดัตช์
ยาป สตัม ได้รับเสียงปรบมืออย่างกึกก้องหลังจากหยุดซีดานเอาไว้ได้จังหวะหนึ่ง แต่ดาวเตะฝรั่งเศสก็ยังคงเป็นผู้เล่นที่โดดเด่นที่สุดในสนามอยู่ดี เขาได้จังหวะวอลเล่ย์หลุดกรอบไปอีกครั้ง ก่อนที่จะจ่ายบอลให้กับ ฟาน นิสเตลรอย หลุดเข้ากรอบเขตโทษ อดีตดาวยิงทีมชาติฮอลแลนด์แตะบอลหนีสตัมที่พุ่งเข้ามาสกัดอย่างน่าหวาดเสียว แต่เขาก็ต้องเจอกับเพื่อนร่วมชาติอีกคนคือ ฟาน เดอร์ ซาร์ ที่ปราดเข้ามาบล็อคลูกยิงของเขาได้ทันเวลา
ลูกครอสสุดอันตรายของ ฟาน นิสเตลรอย ถูกสกัดออกมาได้อย่างหวุดหวิดโดย เดนิส เออร์วิน และลูกยิงของฟิโก้ก็หลุดกรอบออกไปอีก ถึงตอนนี้เป็นทีมเยือนที่ขึงเกมบุกเอาไว้ได้หมด ควินตัน ฟอร์จูน ได้จังหวะยิงฟรีคิกข้ามคาน แต่นั่นก็เป็นเพียงแค่โอกาสลุ้นเพียงไม่กี่ครั้งเท่านั้นสำหรับทีมปีศาจแดง ขณะที่ ฟาน เดอร์ ซาร์ ต้องออกแรงเซฟพัลวันช่วยให้สกอร์ยังคงเสมอกันอยู่
ผู้รักษาประตูจอมเก๋าวิ่งออกมาปิดมุมลูกยิงของมอริเอนเตสอย่างว่องไว ก่อนที่จะพุ่งปัดสวยๆ ถึง 2 ครั้งจากการยิงของ ฟาน นิสเตลรอย มันแสดงให้เห็นว่าฝีมือของเขายังไม่ตกลงไปเลยแม้แต่น้อย รอนนี่ ยอห์นเซ่น โชคดีที่รอดพ้นจากการทำให้ทีมเสียจุดโทษ เมื่อเขาไปปะทะกับซัลกาโด้จนล้มลง จากนั้นไม่นานมอริเอนเตสก็มาปลดล็อคประตูแรก มันเกิดขึ้นในช่วง 6 นาทีก่อนหมดเวลาครึ่งแรก อดีตศูนย์หน้าลิเวอร์พูลรับลูกจ่ายจาก โคล้ด มาเกเลเล่ ก่อนที่จะสับไกยิงจากบริเวณกรอบเขตโทษ บอลพุ่งเสียบมุมประตูเข้าไปเป็นลูกขึ้นนำ
กลับมาเตะกันต่อในครึ่งหลัง ฟาน นิสเตลรอย สลับฝั่งมาเล่นให้กับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด บ้าง และทีมปีศาจแดงก็เริ่มสร้างสรรค์โอกาสได้มากขึ้นทันที มีจังหวะที่ยอร์คร้องเอาจุดโทษหลังโดน เฟร์นานโด เอียร์โร่ สกัดล้มลง อย่างไรก็ตามยอห์นเซ่นก็ต้องออกแรงบล็อคลูกยิงของ รูเบน เด ลา เรด นักเตะที่ถูกเปลี่ยนตัวลงมาคนนี้ของเรอัล มาดริด มีจังหวะยิงให้ ฟาน เดอร์ ซาร์ ต้องเซฟด้วยเช่นกัน
มอริเอนเตสเกือบที่จะซัดลูกที่ 2 ของเขาให้กับเรอัล มาดริด หลังจากที่ยิงเฉียดเสาออกหลังไปอย่างน่าเสียดาย จากการจ่ายมาให้ของฟิโก้ หลังจากนั้นเจ้าถิ่นก็ต้องเผชิญหน้ากับความยอดเยี่ยมของฟิโก้อีกครั้ง จากการยิงปั่นทดสอบความเหนียวของ ฟาน เดอร์ ซาร์
จากนั้นแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ก็เข้าใกล้ความเป็นจริงที่จะยิงประตูได้ ต้องขอบคุณฟอร์มการเล่นของ ฟาน นิสเตลรอย เขาพุ่งโหม่งลูกเตะมุมของเออร์วินที่ โฆเซ่ อมาบิสก้า โขกสกัดผิดเหลี่ยม ซึ่งจังหวะนี้ เปโดร กอนเตรราส ร้องเอาเป็นลูกฟาวล์จาก แอนดี้ โคล แต่ก็ไม่เป็นผล จากนั้นด้วยลูกจ่ายอันคมกริบของสโคลส์ก็ทำให้ ฟาน นิสเตลรอย หลุดไปยิงถากเสาออกไปแบบได้ลุ้น ถือเป็นโอกาสที่ดีที่สุดของทีมปีศาจแดงจนถึงขณะนั้น
เป็นอีกครั้งที่อดีตหัวหอกฮัมบูร์กสร้างสรรค์จังหวะทำประตูให้กับทีม คราวนี้มาจากการจ่ายให้ทางกราบขวาของยอร์ค เขาควบบอลเข้าไปในกรอบเขตโทษก่อนที่จะซัดเต็มข้อผ่านมือ การ์ลอส ซานเชซ เข้าไปตุงตาข่ายเป็นการตีเสมอให้กับเจ้าถิ่น จากนั้นซานเชซก็ต้องออกแรงพุ่งปัดลูกโขกของโคลออกหลังไป จากการทำเกมขึ้นมาอย่างสุดสวยของ ฟาน นิสเตลรอย
ลูกวอลเล่ย์ของยอร์คถูกเซฟเอาไว้ได้สบายๆ โดยซานเชซ ก่อนที่อดีตกองหน้าแอสตัน วิลล่า รายนี้จะเกือบตีเสมอให้กับทีมได้ในสกอร์รวม จากจังหวะที่ซานเชซชกลูกครอสของมาร์ตินออกมาเข้าทางปืนยอร์ค เขาจัดการตักบอลโด่งข้ามหัวกองหลัง แต่ก็น่าเสียดายที่บอลไปชนคานกระดอนออกมา
เรอัล มาดริด ยังมีจังหวะบุกที่อันตรายที่อีกฝั่งของสนาม และลูกจ่ายของมอริเอนเตสก็ทำให้ เด ลา เรด หลุดเข้ากรอบเขตโทษไปชิพผ่านมือนายทวารสำรองอย่าง ไรมอนด์ ฟาน เดอร์ ฮาว เข้าไป ส่งผลให้สกอร์รวมขยับขึ้นไปเป็น 5 – 3 แล้ว เด ลา เรด ยังทิ้งโอกาสทองไปอีกครั้งด้วยก่อนหมดเวลา

อย่างไรก็ตามผลการแข่งขันในแมตช์นี้ก็ไม่ใช่เรื่องสำคัญอะไรนัก ในเมื่อสามารถทำเงินเข้าการกุศลได้มากกว่า 800,000 ปอนด์ นับเป็นการสร้างความบันเทิงให้กับทุกคนได้อย่างคุ้มค่า
รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีม
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ฟาน เดอร์ ซาร์ (ฟาน เดอร์ ฮาว น.70); เบิร์ก (มาร์ติน น.9), สตัม, ยอห์นเซ่น, เออร์วิน; แบล็คมอร์ (ฟาน นิสเตลรอย น.46), ฟอร์จูน, สโคลส์, ชาร์ป (ธอร์นลี่ย์ น.51, บลอมควิสต์ 87); ยอร์ค, โคล
เรอัล มาดริด กอนเตรราส (ซานเชซ น.62); ซัลกาโด้ (ปาบอน น.69), เอลเกร่า, ปาบอน (แม็คมานามาน น.46), อมาบิสก้า; ฟิโก้ (บาสเกซ น.78), เอียร์โร่, มาเกเลเล่ (ซานซ์ น.62), ซีดาน; มอริเอนเตส, ฟาน นิสเตลรอย (เด ลา เรด น.46)
SiR KeaNo

Related Posts